by 波摘 (นามิสึมิ)

หากไปห้องเรียนในยามโพล้เพล้จงระวังให้ดี แม้จะมีซองจดหมายสีดำทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสวางอยู่บนโต๊ะของตัวเองก็ห้ามเปิดเด็ดขาดเชียว หากเปิดเข้าล่ะก็จะพบเจอกับโชคร้าย เป็นโชคร้ายแบบไหนน่ะหรือ? …อาจจะบาดเจ็บสาหัส หรือในกรณีที่แย่ที่สุดอาจถึงตายเลยก็ได้

คนที่ทำให้ฉันกลัวเช่นนั้นคือยูกิจังที่นั่งข้างฉัน ฉันกลัวเรื่องน่ากลัวตรงข้ามกับยูกิจังที่ชอบเรื่องน่ากลัวที่สุด ดูเหมือนว่ายูกิจังจะสนุกกับการได้เห็นท่าทางหวาดกลัวเช่นนั้นของฉัน บางครั้งจึงมาเล่าเรื่องน่ากลัวให้ฟัง เรื่องซองจดหมายสีดำเมื่อตะกี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ยูกิจังเล่าให้ฟังเช่นกัน

ตอนที่ฉันนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาก็คือตอนที่ฉันไปถึงหน้าห้องเรียนในยามโพล้เพล้เพื่อเอาหนังสือเรียนที่ลืมใส่ในกระเป๋า จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกกลัวขึ้นมา แต่ก็พร่ำบอกกับตัวเองว่าซองจดหมายสีดำที่ทำให้โชคร้ายอะไรนั่นเป็นแค่เรื่องแต่งขึ้นมาเท่านั้น ยังไงเสียก็จำเป็นต้องเอาหนังสือเรียนมาเพื่อทำการบ้านที่ได้มาในวันนี้

ถึงตรงนี้แล้วจะถอยกลับไม่ได้แล้ว ฉันตัดสินใจเลื่อนประตูห้องเรียนด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อย แกร่ก ๆ ๆ ! ประตูที่สภาพไม่ดีส่งเสียงดังและเปิดออก ฉันกวาดตามองภายในห้องเรียนที่ไม่มีใครอยู่ ไม่มีอะไรแปลกไปเป็นพิเศษ ที่นั่งของฉันอยู่ริมหน้าต่าง บนโต๊ะไม่มีอะไรวางอยู่ ไม่มีแม้แต่เงาของซองจดหมายสีดำ

เป็นแค่เรื่องแต่งจริง ๆ ด้วย

ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางสอดมือเข้าไปในโต๊ะของตัวเอง คว้าเอาสิ่งที่เหมือนหนังสือเรียนไว้ ในตอนนั้นเอง ฉันก็รู้สึกถึงความผิดปกติเล็กน้อย ฉันค่อย ๆ ดึงมือออกมาทั้งแบบนั้นแล้วหน้าซีด เพราะในมือของฉันนั้นกำเอาซองจดหมายสีทำทางสี่เหลี่ยมจตุรัสเอาไว้พร้อมกับหนังสือเรียนนั่นเอง

“ว้าย!?”

ฉันเหวี่ยงหนังสือเรียนและซองจดหมายสีดำ หนังสือเรียนตกลงบนพื้น มีเพียงซองจดหมายสีดำเท่านั้นที่ปลิวไปตกลงบนโต๊ะ ฉันตัวแข็งอยู่ตรงนั้น ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีอะไรบางอย่างตกลงมาจากเพดานดัง ติ๋ง… ติ๋ง…

“เอ๋?”

สิ่งนั้นคือของเหลวสีแดงราวกับเลือด ทั้งเหนียวและข้น ฉันรีบแหงนหน้ามองเพดาน แต่ไม่มีตรงส่วนใดผิดปกติ ไม่มีทีท่าว่าของเหลวสีแดงรั่วซึมลงมาจากชั้นบนเลย ของเหลวที่ราวกับเลือดนั้นหยดลงบนซองจกหมายสีดำจนเปรอะด้านหน้าซอง ตรงนั้นมีตัวอักษรสีขาวที่เขียนอะไรบางอย่างเอาไว้ แต่อ่านไม่ออกเสียแล้วเพราะของเหลวสีแดงเหนอะหนะ

ฉันรู้สึกแย่ขึ้นมาจึงรีบเก็บหนังสือเรียนที่ตกอยู่บนพื้นและมุ่งหน้าไปยังประตูห้องเรียนโดยทิ้งซองจดหมายสีดำเอาไว้ที่เดิม แต่แม้ว่าจะพยายามเปิดประตูก็กลับไม่ขยับเขยื้อนสักนิดราวกับล็อกไว้

“ทำไมล่ะ!?”

ฉันพุ่งตัวไปยังประตูอีกบานที่อยู่ด้านหน้าห้องเรียน แต่ประตูบานนั้นก็เปิดไม่ออกเช่นกัน

“ช่วยด้วย!”

ฉันทุบประตูดังตึง ๆ ! แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะผ่านมาได้ยินเสียงเลย

…ถูกขังเสียแล้ว

ในตอนที่คิดเช่นนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงชอล์กขีดเขียนตัวหนังสือบนกระดานดำ มาจากด้านหลังของฉัน

นอกจากฉันแล้วในห้องเรียนนี้ไม่น่าจะมีใครอีกนี่นา