สวัสดีค่า ช่วงนี้ใกล้งานหนังสือแล้ว ได้ฤกษ์เคลียร์หนังสือที่ดองไว้(?) เลยได้หยิบเล่มนี้มาอ่านสักทีหลังจากโดนน้องไอดอลป้ายยามาอีกที แถมเล่มนี้ยังพิเศษตรงที่เคลมว่าไม่สามารถทำเป็นฉบับ e-book ได้ด้วย พอพูดแบบนี้มาแล้วเราก็สงสัยสิคะ เลยต้องสั่งมาอ่านพิสูจน์กันสักหน่อยว่าที่ทำเป็น e-book ไม่ได้นี่หมายความว่ายังไง แต่กว่าหนังสือจะมาถึง (ตอนนั้นสั่งไปลงบ้านเพื่อน) กว่าจะได้หยิบมาอ่าน เวลาก็ล่วงเลยมาพอสมควรจนตอนนี้มีเล่ม 2 ออกมาแล้วแบบงงๆ ค่ะ

                               ภาพจาก Amazon

                           ภาพจาก Amazon

ชื่อเรื่อง : 世界でいちばん透きとおった物語 (Sekai de Ichiban Sukitootta Monogatari) ผู้เขียน : 杉井 光 (Sugii Hikaru) สำนักพิมพ์ : 新潮社 (Shinchosha) จำนวนหน้า : 240 หน้า ราคา : 670 เยน + ภาษี

 ฟุจิซากะ โทมะ (藤坂燈真) เด็กหนุ่มนักอ่านผู้คลุกคลีอยู่กับวงการหนังสือเพราะมีแม่เป็นนักพิสูจน์อักษร ส่วนพ่อคือมิยาอุจิ โชโงะ (宮内章吾) นักเขียนนิยายสืบสวนระดับเบสต์เซลเลอร์ แต่ที่จริงแล้วตัวเขาเป็นลูกนอกสมรส ไม่เคยเจอหน้าพ่อ ทั้งยังไม่สนใจผลงานของพ่อ ไม่ยุ่งเกี่ยว และไม่ได้กระเสือกกระสน อยากดิ้นรนไปยุ่งเกี่ยวกับตัวมิยาอุจิเท่าไหร่นัก จนวันหนึ่ง โทมะได้ข่าวว่ามิยาอุจิ โชโงะ ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคร้ายในวัย 61 ปี ซึ่งตอนแรกโทมะเองก็ไม่ได้สนใจอะไร ไม่ได้ไปงานศพและไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะรู้สึกว่ามิยาอุจิคือคนนอก ถึงจะเป็นพ่อทางสายเลือดแต่ในด้านความสัมพันธ์แล้วคือคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย

 ทว่า หลังจากมิยาอุจิเสียชีวิตไปได้ประมาณหนึ่งเดือน โทมะกลับได้รับสายจากมัตสึคาตะ โทโมอากิ (松方朋晃) พี่ชายต่างแม่ของตนที่ไปขอเบอร์ติดต่อโทมะมาจากทางสำนักพิมพ์ซึ่งดูแลต้นฉบับของมิยาอุจิและเป็นสำนักพิมพ์ที่แม่ของโทมะรับงานมาทำด้วย โดยโทโมอากิอยากให้โทมะช่วยหาต้นฉบับเรื่อง “เรื่องราวที่ใสที่สุดในโลก (世界でいちばん透きとおった物語)” ซึ่งเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของมิยาอุจิที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์ซึ่งพบในโน้ตของมิยาอุจิที่เสียชีวิตไป โทโมอากิต้องการต้นฉบับเรื่องนี้มาตีพิมพ์และสืบทอดค่าลิขสิทธิ์ผลงานของมิยาอุจิต่อ แต่ตัวเขาเองหาต้นฉบับที่ว่านั่นไม่เจอจึงได้ “ว่าจ้าง” โทมะซึ่งเป็นลูกนอกสมรสให้ช่วยหาแทนให้ แต่หากหาไม่เจอภายในเวลาที่กำหนด เขาจะยอมตัดใจจากต้นฉบับนี้

 ตัวโทมะเองที่ยังใช้ชีวิตลอยชาย ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ยังชีพอยู่ได้ด้วยเงินที่เหลือของแม่ซึ่งเสียชีวิตไปบวกกับเงินทำงานพิเศษในร้านหนังสือจึงตกลงรับข้อเสนอนี้ พร้อมกับมีฟุคามาจิ คิริโกะ (深町霧子) บรรณาธิการของสำนักพิมพ์ที่สนิทสนมกับแม่โทมะมาให้ความร่วมมือในการหาต้นฉบับด้วยอีกแรง แต่ยิ่งโทมะพยายามสืบสาวราวเรื่องของพ่อเพื่อค้นหาต้นฉบับมากเท่าไหร่ เขากลับได้รู้จักกับอีกด้านหนึ่งของชายที่ได้ชื่อว่า “พ่อทางสายเลือด” มากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงความจริงของ “เรื่องราวที่ใสที่สุดในโลก” ที่ปรากฎอยู่ในโน้ตของมิยาอุจิคืออะไร ต้นฉบับมีอยู่จริงหรือไม่ และเป็นเรื่องราวแบบใดกันแน่…

 ช่วงแรกของเล่มนี้จะไม่หวือหวา การเล่าเรื่องค่อนข้างเรียบง่าย ปูพื้นให้คนอ่านได้รู้จักกับครอบครัวของโทมะรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวมิยาอุจิ แม่ โทมะ และคิริโกะก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ สืบหาต้นฉบับไปเรื่อยๆ ผ่านการพูดคุยและอนุมาน ซึ่งตัวคนเขียนได้ทิ้งคำบอกใบ้ไว้ตามรายทางให้คนอ่านด้วย หากอ่านไปเฉยๆ แบบไม่คิดอะไรอาจจับสังเกตไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดถึงต้องอธิบายข้อมูลเหล่านี้ซึ่งดูแล้วไม่น่าเกี่ยวข้องกันเอาไว้ แต่ถึงเรื่องในช่วงแรกจะไม่หวือหวาแต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ ตัวเรื่องมีเสน่ห์พอให้คนอ่านพลิกหน้าอ่านต่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกอึดอัด อาจเพราะหนังสือซอยแต่ละบทให้สั้นๆ ไม่ได้ยืดยาวจนสมาธิหมดก่อนอ่านจบ เลยรู้สึกว่าอ่านไหลไปได้เรื่อยๆ และการแบ่งบทก็ถือเป็นจุดให้พักแบบพอดีๆ ค่ะ

 ที่สำคัญ เมื่ออ่านมาจนถึงพาร์ทไขปริศนาแล้ว เราจะเข้าใจทุกอย่างว่าทำไมหนังสือเล่มนี้ถึงทำเป็น e-book ไม่ได้ เพราะกิมมิคสำคัญมันอยู่ที่ “รูปเล่ม” ของหนังสือจริงๆ และกิมมิคนี้อาจทำได้แค่เฉพาะหนังสือภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นด้วย ซึ่งหากอ่านแบบ e-book จะไม่มีทางเข้าใจและตะลึงกับลูกเล่นนี้ได้เลย และพอไขปริศนาแล้ว เชื่อว่านักอ่านหลายคนต้องย้อนกลับไปดูเนื้อหาที่อ่านผ่านมาอีกครั้ง รวมถึงอุทานกับช่วงสุดท้ายเหมือนอย่างที่เราเป็นแน่ๆ ค่ะ

 ในด้านภาษาค่อนข้างเรียบง่าย อ่านไม่ยาก เพราะเป็นการเล่าเรื่องจากความรู้สึกนึกคิดของบุคคลที่หนึ่ง จึงเป็นภาษาพูดทั่วไปซะเยอะค่ะ