เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้นเฉพาะตอนที่เฝ้าบ้านคนเดียวเท่านั้น

เครื่องโทรศัพท์ในบ้านเป็นโทรศัพท์สีดำที่ใช้มาตั้งแต่สมัยก่อน ส่งเสียงดังชนิดที่ว่าถ้าอยู่ใกล้ๆตอนโทรศัพท์ดังกริ๊งๆแล้วล่ะก็จะต้องสะดุ้งเลยทีเดียว ตัวเครื่องวางไว้บนตู้เก็บถ้วยชาบริเวณทางเข้าห้องนั่งเล่นแบบญี่ปุ่น แต่เสียงกริ่งของมันนั้น ไม่ว่าจะอยู่ห้องไหนก็ตาม จะอยู่ชั้นสองหรือในห้องครัว แม้จะปิดประตูเอาไว้ก็ยังคงได้ยิน จนรบกวนการนอนกลางวันมานับครั้งไม่ถ้วน

ผมตื่นจากการนอนกลางวัน หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือหยุดทบทวนบทเรียนกลางคัน แล้วลุกไปที่เครื่องโทรศัพท์ พอยกหูโทรศัพท์ขึ้นสายก็ตัด หรือไม่ก็ก่อนจะยกหูโทรศัพท์ พอเข้าไปใกล้ตัวเครื่องแล้วสายก็ตัด เรื่องแบบนี้มักเกิดขึ้นเสมอ

ในตอนแรก ผมคิดว่าเครื่องโทรศัพท์น่าจะอาการไม่ดีแล้ว แต่ก็ยังโทรได้ปกติไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีเสียงขาดหายระหว่างคุยหรือไม่ได้ยินเสียงคู่สนทนาด้วย

ถ้าเกิดขึ้นแค่ครั้งหรือสองครั้งก็น่าจะแค่บังเอิญ แต่พอเรื่องนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องทุกครั้งที่เฝ้าบ้าน ผมก็คิดแล้วว่าต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ แล้วสงสัยด้วยว่าต้องเป็นตอนที่ผมเฝ้าบ้านคนเดียว นอกจากผมคนในครอบครัวคนอื่นก็ไม่มีใครเคยเจอเรื่องแบบนี้เลย ผมเคยคิดว่าพอทั้งพ่อและพวกพี่ชายรู้ว่าผมเฝ้าบ้านคนเดียวก็เลยจะกวนประสาทผม โดยเฉพาะพ่อที่น่าจะเป็นคนทำ

แต่ว่า ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าตัดสายตอนที่ผมกำลังจะรับ พอกลับถึงบ้านมาแล้วก็น่าจะสังเกตปฎิกริยาของผมด้วย แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย ผมเองก็ใกล้จะลืมเรื่องโทรศัพท์ปริศนาแล้ว และพอผมลืม เมื่ออยู่คนเดียวโทรศัพท์ก็จะดังขึ้นอีกครั้ง โดยโทรมาแบบไม่พูดอะไรสักคำแล้วตัดสายไป ในที่สุดผมเองก็รู้สึกตัวว่า อ๊ะ นี่คนที่เคยโทรมาประจำนี่

วันนั้นเป็นวันเสาร์ ผมอยู่บ้านคนเดียว ยังไม่มีใครกลับบ้านมาทั้งพี่ชูยะที่ออกไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด และพี่นัตสึโอะที่ออกไปซื้อของมาทำอาหารเย็น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในตอนที่ผมมองออกไปนอกหน้าต่างและคิดว่าพระอาทิตย์จะตกดินแล้วพอดี ผมกำลังนอนกลิ้งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ในห้องนั่งเล่นจึงออกไปรับโทรศัพท์ได้ในทันที

ผมยกหูโทรศัพท์ และบอกชื่อออกไปว่า ครับ บ้านฮิบิคิโนะครับ เสียงที่ตอบกลับมาคือความเงียบ ตอนนั้น ผมรู้แล้วว่าน่าจะเป็นคนนั้นที่โทรมาเป็นประจำ แต่ที่ต่างออกไปจากเดิมคือ เขาไม่ได้ตัดสายทิ้งไปในทันที

"ฮัลโหล?"

ผมรู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ที่ปลายสายแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ มือถือกดโทรพลาดหรือเปล่า ถ้างั้นก็พวกพี่ชายล่ะมั้ง ผมคิดเช่นนั้นพลางรอต่ออีกครู่หนึ่ง แต่ไม่ว่าจะรอนานแค่ไหนก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา

"ไม่ได้ยินเลย ผมวางนะครับ"

เมื่อทำอะไรไม่ได้ ผมจึงพูดตัดบทแล้ววางหู พอหันหลังกลับกำลังจะเดินออกจากเครื่องโทรศัพท์ปุ๊ป เสียงโทรศัพท์ กริ๊งๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

"ฮัลโหล บ้านฮิบิคิโนะครับ"

แม้จะรับสายในครั้งเดียวก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียงคู่สนทนาอยู่ดี ผมพูดออกไปอีกหลายครั้งว่า ฮัลโหล ฮัลโหล แล้วก็ได้ยินเสียงเปิดประตูทางเข้าบ้าน

"กลับมาแล้ว โทษทีที่กลับช้า"

อ๊ะ พี่นัตสึโอะ ตอนที่ผมหันไปทางประตูบ้าน โทรศัพท์ก็ตัดไปกลางคัน

หลังจากนั้น ผมก็ไม่มีโอกาสได้เฝ้าบ้านคนเดียวอีก จนผ่านไปประมาณสองอาทิตย์ วันนั้น ในบ้านไม่มีใครอยู่เลยตอนผมกลับมาจากโรงเรียนมัธยมต้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แค่ในบางครั้งบางคราวผมจะเป็นคนแรกที่กลับถึงบ้านเท่านั้น ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว ผมหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา มีข้อความจากพี่นัตสึโอะส่งมาว่า "ออกไปซื้อของลดราคาพิเศษกับพ่อ" น่าจะกลับเข้าบ้านมาแล้วออกไปอีกรอบหนึ่ง