ผมออกจากบ้านจะไปโรงเรียน เมื่อเปิดประตูบ้านก็เจอรองเท้าตรงบริเวณหน้าประตู

รองเท้าผ้าใบสีขาวที่มีคราบสกปรกสีเทาอยู่ประปราย ไม่ใช่ทั้งของผม หรือของพ่อและพวกพี่ชาย มันอยู่ครบคู่ทั้งข้างซ้ายและข้างขวา หันปลายเท้าเข้ามาทางบ้าน

จะว่าไปถึงเวลานั้นแล้วหรือนี่ ผมคิดเช่นนั้นพลางใช้มือเอื้อมไปปิดประตูด้านหลัง

ทุกปี เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน มันจะปรากฏขึ้น

กำหนดไว้แล้วว่าจะหันปลายเท้าตรงเข้ามาทางบ้าน ถ้าจะบอกว่ามีคนถอดทิ้งไว้ มันก็เข้าคู่กันอย่างเรียบร้อย

เหมือนใครสักคนถอดรองเท้าไว้ที่นี่แล้วเข้าบ้านด้วยเท้าเปล่า ผมลืมไปแล้วว่าเป็นแบบนี้มากี่ปีแล้ว แต่ตอนที่เห็นครั้งแรกนั้นนึกว่าเป็นขโมยที่แอบเข้าบ้านหรือเปล่า

ถึงจะเช็คกับทุกคนในบ้านแล้วแต่ทุกคนก็ตอบว่าไม่รู้ ไม่ใช่ของตัวเอง และพอคุยกันว่ารู้สึกไม่ดีเลย อาจมีเจ้าของมารับคืนไปก็ได้เลยวางทิ้งไว้ข้างนอกอย่างนั้น และเช้าวันถัดมาก็ทิ้งลงในถังขยะของทางเขตที่ตั้งไว้เยื้องกับหน้าบ้าน นั่นคือครั้งแรก

ปีต่อมา และในอีกปีต่อมาก็เกิดเรื่องเดิมซ้ำ พอหลายครั้งเข้าทุกคนก็ชิน คนที่เจอจะเช็คกับคนในบ้านเพื่อความแน่ใจ แล้ววางไว้ดูสถานการณ์นอกบ้านหนึ่งคืนก่อนทิ้งถังขยะในเช้าวันต่อมา หรือในกรณีที่ยังไม่ถึงวันทิ้งขยะเผาได้ก็จะเอาใส่ถังพลาสติกมีฝาซึ่งวางอยู่มุมสวนชั่วคราว

เพราะรู้ว่าเจ้าของรองเท้าไม่มาเอาคืน ปีสองปีมานี้จึงไม่วางไว้หนึ่งคืนและทิ้งไปเลยก็มี พี่ชูยะเป็นพวกเหตุผลนิยมและเป็นพวกหมกมุ่นกับความสะอาดเล็กน้อย ดังนั้นการมีรองเท้าซึ่งไม่รู้เจ้าของมาวางอยู่หน้าบ้านจึงทำให้เจ้าตัวไม่สบอารณ์เท่าไหร่ ในกรณีที่พี่ชูยะพบคนแรก รองเท้าจะไปอยู่ในถังพลาสติก

แต่ปีต่อมา รองเท้าก็จะกลับมาวางอยู่ตรงนั้น

ซึ่งปีนี้ผมเป็นผู้พบคนแรก

ผมจำไม่ได้ว่าคู่นี้เหมือนกับรองเท้าที่ทิ้งไปเมื่อปีที่แล้วหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าคล้ายกัน

หากเป็นคู่เดียวกัน ก็หมายความว่าจะกลับมาทุกครั้งที่ทิ้งไป ใช้เวลาหนึ่งปี และเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงเวลาหลายปีมานี้

บางทีวันที่ปรากฏขึ้นอาจเป็นวันเดียวกันด้วยก็ได้ เพราะไม่เคยคิดว่าวันที่มีความหมายเลยไม่รู้สึกตัว

ทำไมกัน เพราะตื่นเช้าในวันที่อากาศสดใสหรือ หรือเพราะไม่มีความเสียหายจริง ในช่วงหลายปีมานี้ผมไม่เคยคิดอย่างลึกซึ้งเลย แต่พอลองคิดดูแล้วก็เป็นปรากฎการณ์ที่แปลกประหลาด

ผมเคยดูเรื่องผีที่เกิดขึ้นจริงเรื่องตุ๊กตาต้องคำสาปที่แม้จะทิ้งไป แต่ไม่นานก็กลับมาที่ฉายทางโทรทัศน์ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน

(รองเท้าคู่นี้แต่เดิมแล้วไม่ใช่ของบ้านเรา ก็แปลว่าพวกเราไม่ได้เป็นคนทิ้ง และไม่คิดว่าจะมีวิญญาณสิงอยู่ในรองเท้าซึ่งต่างจากตุ๊กตาด้วย แล้วจำไม่ได้ด้วยว่าเคยทำเรื่องให้รองเท้าเคียดแค้น คิดง่ายๆ คือน่าจะมีใครสักคนเอามาวางไว้)

แต่ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่ามีใครบางคนมาเยี่ยมเยือนบ้านนี้ทุกปีในวันเดียวกัน

และเอารองเท้าคู่เดิม หรือที่คล้ายของเดิมมาวางไว้ตรงทางเข้าบ้านแล้วจากไป หรือไม่ก็ถอดรองเท้าที่ใส่มาแล้วจากไป